ซีรีย์จีน
ซีรีย์จีน กีซึงนัง จอมนางสองแผ่นดิน (Empress Ki) เสนอเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเรืองอำนาจในสมัยปลายของมองโกลวงศ์สกุลหยวนเป็นเวลายาวนานกว่า 30 ปี คุณมิได้เป็นชาวมองโกลและไม่มีเชื้อสายชาวฮั่น ถ้าเป็นสตรีชาววัวรยอซึ่งเป็นอาณาจักรเล็กๆในแถบตะวันออกไกล มิหนำซ้ำ คุณยังยอดเยี่ยมในหญิงสาวที่ถูกราชสำนักวัวรยอจับไปเป็นเครื่องบรรณาการแก่วงศ์สกุลหยวนอีกด้วย แม้กระนั้นในที่สุดหญิงต่ำต้อยอย่างคุณกลับได้รับการจารึกชื่อในประวัติศาสตร์ว่ายอดเยี่ยมในพระราชินีที่วงศ์สกุลหยวน รวมทั้งชื่อของคุณก็คือ “พระราชินีกี”
“พระราชินีกี” หรือ “ฉีฮองเฮา” ในภาษาจีน รวมทั้ง “สมเด็จพระพระราชินีโอลชีคูตูค” ในภาษามองโกลเลีย เป็นเลิศในฮองเฮาของ “ทอคอนเตมูร์” หรือ “จักรพัตราธิราชหยวนฮุ่ยต้อง” (จักรพัตราธิราชองค์ที่ 12 แล้วก็องค์ในที่สุดของวงศ์สกุลหยวน) รวมทั้งแม่ขององค์ชาย “อายูร์ชีรีดาร์” หรือ “จักรพัตราธิราชหยวนเจ้าต้อง” ผู้จัดตั้งวงศ์สกุลหยวนเหนือคุณเป็นสตรีชาววัวรยอที่เกิดในครอบครัวเจ้าขุนมูลนายระดับล่าง มีพี่ชายคนหนึ่งชื่อ “กีชอล” ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เด็กผู้ชายและก็เด็กผู้หญิงชาววัวรยอเยอะแยะได้ถูกส่งไปเป็นของถวายให้มองโกลวงศ์สกุลหยวน
โดยเด็กผู้ชายถูกส่งไปเป็นขันที ส่วนเด็กผู้หญิงถูกส่งไปเป็นนางในรวมทั้งพระสนม (กษัตริย์วัวรยอจำเป็นต้องส่งหญิงของถวายไปให้ราชสำนักหยวนทุกๆ3 ปี) พระราชินีกีก็เป็นเยี่ยมในเด็กหญิงที่ถูกส่งไปเป็นของขวัญให้ราชสำนักหยวน ในตอนแรกคุณไม่เต็มใจ แต่ว่าพอเพียงไปถึงต้าหยวนคุณก็ตกลงใจว่าจะเป็นพระสนมที่ดีและก็สะดุดตาที่สุด เนื่องจากว่ามีรูปลักษณ์งามกว่าใครกันแน่ ทั้งมีความชำนาญในด้านการรำ ขับขาน เขียนพู่กัน แต่งบทประพันธ์ รวมทั้งมีวาทะศิลป์ คุณก็เลยแปลงเป็นพระสนมคนโปรดของทอคอนเตมูร์ (ฮ่องเต้) อย่างเร็ว
ฮ่องเต้หลงใหลพระสนมกีแล้วก็ใช้เวลาอยู่กับนางมากยิ่งกว่า “ทานาชีรี” (ฮองเฮาท่านแรก) ข้างหลังฮองเฮาทานาชีรีถูกประหารอันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการก่อกบฏของ “ทังกีเซ” ผู้เป็นพี่ชาย ฮ่องเต้อุตสาหะตั้งพระสนมกีเป็นฮองเฮาท่านลำดับที่สอง (เวลานี้มี “พระราชินีบายันคูตูค” (หลานของ “บายัน” รวมทั้งน้องสาวของ “ทอคโคน”) ครองตำแหน่งฮองเฮาอยู่ก่อนแล้ว) แต่ว่าเพราะเหตุว่าเป็นการผิดธรรมเนียมปฏิบัติ (ฮองเฮาต้องเป็นชาวมองโกล) ราชสำนักก็เลยไม่เห็นพ้อง ประกอบกับ “บายัน” ซึ่งกุมอำนาจในราชสำนักในเวลานั้น แล้วก็ไทเฮาต่างพากันปฏิเสธ ฮ่องเต้เลยไม่สามารถที่จะแต่งพระสนมกีขึ้นเป็นฮองเฮาองค์ลำดับที่สองได้
แต่ว่าภายหลังจากให้กำเนิดพระบุตรชายพระสนมกีก็เลยถูกแต่งตั้ง ซีรีย์จีน เป็นฮองเฮาองค์ลำดับที่สอง หรือ “พระราชินีกี” ท้ายที่สุดต่อจากนั้นพระราชินีกีก็แปลงเป็นผู้เรืองอำนาจอย่างแท้จริง เพราะเหตุว่าฮ่องเต้ไม่ค่อยสนพระทัยและไม่โปรดการจัดการประเทศ ไม่ถูกกับพระราชินีกีที่มีพรสวรรค์ในด้านการบ้านการเมืองแล้วก็เศรษฐกิจอำนาจทั้งผองก็เลยตกอยู่ในมือนาง เนื่องจากว่าวัวรยอเป็นเมืองขึ้นของวงศ์สกุลหยวน กีชอลในฐานะพระเชษฐาของพระราชินีกีก็เลยแปลงเป็นผู้มีอำนาจในราชสำนักวัวรยออย่างแท้จริง เป็นที่รู้กันว่ากีชอลนั้นขึ้นชื่อลือชาในประเด็นการทุจริตและก็อำนาจของเขาก็ทำให้ราชบัลลังก์ของพระเจ้าแผ่นดินโหยกเหยก “พระผู้เป็นเจ้าอาจไม่น”
อยากได้ปลดปล่อยวัวรยอจากวงศ์สกุลหยวนก็เลยกระทำยึดอำนาจและก็กำจัดอิทธิพลของเชื้อสายกีในวัวรยอโดยฆ่าคนเชื้อสายกีจนถึงหมดเกลี้ยง เมื่อพระราชินีกีรู้ข่าวสารก็เลยโต้กลับด้วยการเลือกองค์ชายมองโกล “ทัชเตมูร์” ให้มาเป็นพระมหากษัตริย์วัวรยอองค์ใหม่แทนแล้วก็ส่งกองทัพมองโกลมาจู่โจมภูมิลำเนาของตัวเอง แต่ว่าท้ายที่สุดกองทัพมองโกลวงศ์สกุลหยวนก็ปราชัยให้กับกองทัพวัวรยอ พระผู้เป็นเจ้าอาจจะไม่นก็เลยหยุดส่งเครื่องบรรณาการให้วงศ์สกุลหยวน ต่อไปไม่นานวงศ์สกุลหยวนก็ถูกวงศ์สกุลหมิงล้ม
“พระราชาธิราชหยวนฮุ่ยควร” กำลังจะเสด็จไปร่วมพิธี เมื่อมองเห็น “พระผู้เป็นเจ้าชุงฮเย” (วังยู) กษัตริย์ที่วัวรยอยืนดักรอบนสะพานเพื่อกล่าวลาก่อนที่จะได้มีการเดินทางกลับวัวรยอ ท่านก็เลยพูดถามคำถามว่าจะไม่ไปร่วมพิธีการหน่อยหรือ เมื่อพระมหากษัตริย์วังยูตอบว่าตนขาดเหตุผลที่จะร่วม ฮ่องเต้ฮุ่ยต้องก็เลยบอกว่าการที่หญิงของถวายได้รับการแต่งให้เป็นถึงฮองเฮาถือว่าเป็นเกียรติยศแก่วัวรยอ รวมทั้งหากมิได้ ‘นาง’ ตอนนี้พระเจ้าแผ่นดินวังยูอาจตายไปแล้ว ฮ่องเต้ฮุ่ยต้องย้ำว่านางเป็นคนช่วยชีวิตอันไม่มีคุณค่าของเขา
พระมหากษัตริย์วังยูได้ยินด้วยเหตุดังกล่าว ซีรีย์จีน ก็เลยฝากขอบใจก่อนเดินหนีไป เมื่อถูกถามคำถามว่ายังรัก ‘ซึงนัง’ อยู่ใช่ไหม พระเจ้าแผ่นดินวังยูหยุดเดินชั่วครู่รวมทั้งบากบั่นกล้ำกลืนฝืนทนความเจ็บปวดรวดร้าวก่อนเดินต่อไปโดยไม่พูดจา ฮ่องเต้ฮุ่ยต้องเองก็ปวดใจไม่แพ้กันก็เลยตะเบ็งบอกพระเจ้าแผ่นดินวังยูทั้งยังน้ำตาว่า “เรารักนาง นางเป็นทุกอย่างของเรา นางไม่ใช่ของเจ้า รู้เรื่องรึยัง รู้เรื่องรึเปล่า?”พระสนมกีแต่งตัวจัดเตรียมเข้าพิธีการด้วยสีหน้าท่าทางเรียบเฉยเมย พอเพียงพอจับแหวนคู่ (ของคุณพ่อกับคุณแม่) ที่ร้อยเก็บเอาไว้ในเชือกขึ้นมามองก็เผลอยิ้มออกมา
แม้กระนั้นภายหลังจากคนรับใช้เข้ามาพูดว่าพระเจ้าแผ่นดินวังยูได้เสด็จออกมาจากวังเพื่อเดินทางกลับวัวรยอแล้ว พระสนมกีก็มีสีหน้าท่าทางหมองมัว… สุดท้ายพระสนมกีก็ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นฮองเฮา โดยพิธีได้จัดขึ้นเป็นอย่างมากใหญ่รวมทั้งสมเกียรติ แม้ว่าจะมีผู้คนมาร่วมงานล้นหลาม (และก็องค์ชาย “วังวัว (ยอดที่เสิ่นหยาง)”) แล้วก็มีฮ่องเต้ฮุ่ยควรอยู่เคียงคู่ แต่ว่าในสายตาของพระสนมกีกลับมีเพียงแต่กษัตริย์วังยู (ซึ่งยืนมองอยู่ไกลๆ) พระสนมกีร้องไห้พรากเมื่อมองเห็นแววตาที่แสนเจ็บปวดรวดร้าวของพระเจ้าแผ่นดินวังยู ในขณะที่พระมหากษัตริย์วังยูได้แม้กระนั้นยืนดูหญิงอันเป็นสุดที่รักด้วยน้ำตาคลอก่อนหันหลังเดินจากไป
สองญาติพี่น้อง “ถังฉีซื่อ” รวมทั้ง “ถ่าล่าไห่” บุตรอัครมหาเสนาบดี “เยี่ยนเถี่ย” ที่วงศ์สกุลหยวน (มองโกล) ได้นำกำลังทหารกักคุมหญิงของขวัญชาววัวรยอเดินทางไปยังเมืองต้าตู้ของต้าหยวน โดยมีองค์ชายรัชทายาทวังยูที่วัวรยอร่วมเดินทางในฐานะตัวประกัน องค์ชายวังยูมองเห็นหญิงชาววัวรยอ แล้วก็ “กีนัง” กับแม่ (ข้อเท็จจริงแล้วนางเอกเป็นคนสกุลกี ชื่อ “นัง” (นยัง) เพียงพอปลอมตัวเป็นชายก็เลยแปลงชื่อเป็น “ซึงนัง”) ถูกถ่าล่าไห่จับผูกรวมทั้งเฆี่ยนอย่างโหดเหี้ยมก็อดรนทนดูไม่ได้ก็เลยสั่งให้หยุด แล้วหลังจากนั้นก็บอกให้แก้มัดรวมทั้งรักษารอยแผลให้พวกนาง
เมื่อถังฉีซื่อทราบเข้าเลยเตือนว่าท่านอยู่ในฐานะตัวประกันของต้าหยวนก็เลยไม่มีสิทธิสั่งพวกตน (เวลานี้วัวรยอเป็นเมืองขึ้นของวงศ์สกุลหยวน เหล่าองค์ชายวัวรยอทุกท่านก็เลยจะต้องเสด็จไปยังเมืองต้าตูตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ เพื่อรับการฝึกฝนแล้วก็ปลูกฝังวิถีชีวิตแบบชาวมองโกล อีกทั้งจำต้องแปลงชื่อเป็นภาษามองโกลเลีย รวมทั้งอภิเษกกับเจ้าฟ้าหญิงมองโกลด้วย)องค์ชายวังยูสงสัยว่าหญิงวัวรยอที่สภาพร่างกายระบมพวกนี้จะมีชะตาชีวิตอย่างไรเมื่อเดินทางไปถึงต้าหยวน เมื่อขันทีคนรู้จักมักคุ้น “พังทลาย เคยชินอู”
ทูลว่าพวกนางจะถูกขายไปเป็นข้ารับใช้หรือไม่ก็หญิงขายบริการทางเพศ ซีรีย์จีน องค์ชายวังยูก็เลยแอบปล่อยเนื้อปล่อยตัวพวกนางจากที่ขังตอนกลางดึก โดยหารู้ไม่ว่านั่นเป็นการเปิดประตูให้ทุกคนเดินไปสู่ความตาย ข้างหลังทราบดีว่าหญิงของถวายชาววัวรยอพากันแอบหนีเข้าป่าไปกระทั่งหมด ถังฉีซื่อกับถ่าล่าไห่ก็เลยนำกำลังออกไล่ล่าและก็ฆ่าทุกคนที่เจอ แม่ของกีนังถูกยิงด้วยธนูเข้าที่เข้าทางกึ่งกลางข้างหลังทำให้ทรุดลงไปนอนไม่ไหวติงกับพื้น กีนังได้แต่ว่าเรียกและก็พากเพียรปลุกให้แม่ตื่น เมื่อถังฉีซื่อมาเจอเข้าก็หัวเราะอย่างผู้ชนะก่อนเล็งธนูไปที่กีนัง
แม่ของกีนังมองเห็นด้วยเหตุผลดังกล่าวก็เลยเอาร่างตนบังกีนังไว้ จากนั้นสองแม่ลูกก็เกลือกตกลงจากเนิน แม่กีนังรู้สึกตัวว่าตัวเองใกล้จะตายก็เลยบอกให้กีนังรักษาตัวรวมทั้งมีชีวิตอยู่ถัดไป คุณมอบแหวนเงินให้กีนังพลางกล่าวว่าแหวนวงนี้บิดาของกีนังมอบให้ตนแล้วก็เขายังมีชีวิตอยู่ คุณทนพิษรอยแผลไม่ไหวก็เลยฝ่าฝืนกล่าวได้เพียงแค่คำว่า “สกุลกี” และก็ “แหวนคู่” แล้วต่อจากนั้นก็สิ้นชีพ
บัลลังก์เลือดแห่งวังหลวง (Secret Door)
พระผู้เป็นเจ้ายองโจ” (ชื่อเดิมก่อนขึ้นครองราชย์เป็น “องค์ชายยอนอิง”) เป็นกษัตริย์องค์ที่ 21 ที่วงศ์สกุลโชชอน ทรงดูแลโดยถือมั่นในหลักจริยศาสตร์ขงจื๊อ เป็นเลิศในกษัตริย์ที่ได้รับการสรรเสริญเยอะที่สุดที่วงศ์สกุลโชชอน และก็ยังทรงเป็นกษัตริย์ที่ครองราชสมบัตินานที่สุดของวงศ์สกุลโชชอน (52 ปี) อีกด้วยท่านเป็นพระลูกชายองค์ลำดับที่สองของ “พระผู้เป็นเจ้าซุกควร” ส่วนแม่เป็น “พระสนมซุกบิน ที่เครือญาติชเว” (หรือที่พวกเรารู้จักในชื่อ “ทงอี”) ข้างหลัง “พระผู้เป็นเจ้าคยองควร” ซึ่งเป็นพระเชษฐาต่างแม่ (พระบุตรชายของ “พระสนมฮีบิน” หรือที่พวกเรารู้จักในชื่อ “จางอ๊กจอง”) ทรงขึ้นครองราชย์ภายใต้การผลักดันและสนับสนุนของเจ้าขุนมูลนายกรุ๊ปโซรนไม่กี่เดือน
เจ้าขุนมูลนายกรุ๊ปโนรน (กรุ๊ปอนุรักษ์นิยม) ก็สนับสนุนให้พระองค์ได้ขึ้นเป็นพระน้องชายรัชทายาท (เนื่องด้วยพระผู้เป็นเจ้าคยองควรไม่มีพระบุตรชาย ซ้ำยังทรงพระเจ็บไข้) ทั้งบากบั่นให้พระองค์เป็นผู้สำเร็จราชการแทน รวมทั้งโน่นก็นำมาซึ่งการก่อให้เกิดความไม่ลงรอยกันอย่างหนักระหว่างเจ้าขุนมูลนายทั้งคู่กรุ๊ป เจ้าขุนมูลนายกรุ๊ปโซรนยัดเยียดข้อหาท่านและก็เหล่าเจ้าขุนมูลนายกรุ๊ปโนรนว่าเป็นกบฏหมายล้มล้างราชบัลลังก์ ก็เลยกระทำการกำจัดเจ้าขุนมูลนายกรุ๊ปโนรน แม้กระนั้นท้ายที่สุดพระผู้เป็นเจ้าคยองควรก็เสด็จสิ้นพระชนม์ในอีก 4 ปีถัดมา
ข้างหลังขึ้นครองราชย์ต่อจากพระเชษฐา ซีรีย์จีน พระผู้เป็นเจ้ายองโจยังคงถูกเจ้าขุนมูลนายกรุ๊ปโซรนใส่ความว่ามีความเกี่ยวข้องกับการลอบปลงพระชนม์อดีตกาลกษัตริย์ (เดี๋ยวนี้เป็นที่ยอมรับในกลุ่มนักประวัติศาสตร์ว่าพระผู้เป็นเจ้าคยองต้องเสด็จสิ้นพระชนม์ด้วยเหตุว่ารับประทานอาหารทะเลที่ไม่สดแล้วก็แปดเปื้อนเชื้อโรค) หากแม้ท่านจะบากบั่นสร้างความพร้อมเพรียงรวมทั้งห้ามไม่ให้มีการแบ่งฝักแบ่งข้าง แม้กระนั้นเจ้าขุนมูลนายกรุ๊ปโซรนก็ถูกเจ้าขุนมูลนายกรุ๊ปโนรนกำจัดจนกระทั่งหมดไปอยู่ดี
ข้างหลัง “องค์ชายคยองอี” (องค์ชายรัชทายาทฮโยจาง) พระลูกชายองค์โตของพระผู้เป็นเจ้ายองโจสวรรคต วงศ์สกุลโชชอนก็ไม่มีผู้สืบทอดเพราะว่าพระผู้เป็นเจ้ายองโจทรงมีแม้กระนั้นพระบุตรสาว เมื่อ “องค์ชายชางฮอน” กำเนิดในอีก 7 ปีถัดมา พระผู้เป็นเจ้ายองโจซึ่งเวลานี้ทรงมีพระชนมายุ 41 ปี ก็เลยทรงตั้งองค์ชายน้อยเป็นองค์รัชทายาทและก็อุปถัมภ์ค้ำชูฟักฟูมอย่างเข้มงวดหมายให้พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ที่ดี องค์ชายรัชทายาททรงอภิเษกกับหนูน้อยฮเยคยองจากเครือญาติฮง จากนั้นก็มีโอรสร่วมกันสองท่าน (หนึ่งในนั้นเป็น “องค์ชายลีซาน” หรือพระผู้เป็นเจ้าจองโจ) แล้วก็ยังมีพระบุตรีอีก 2 ท่าน
ตอนที่องค์ชายรัชทายาททรงมีพระชนมายุ 27 ปี พระผู้เป็นเจ้ายองโจทรงปลดท่านรวมทั้งพระมเหสีฮเยคยองออกมาจากตำแหน่ง อีกทั้งสั่งให้องค์ชายรัชทายาทคลานเข้าไปอยู่ในกล่องไม้ใส่ข้าวขนาดสี่ฟุตซึ่งตั้งอยู่ที่โล่งแจ้งในฤดูร้อน (กรกฎาคม) หลังจากนั้นก็ปิดตายและก็ขังท่านไว้ในนั้นโดยไม่ให้ข้าวให้น้ำ ข้างหลังผ่านไปนาน 7 วัน องค์ชายก็ตายอย่างน่าอเนจอนาถใจ
พูดกันว่าต้นเหตุที่องค์ชายรัชทายาทถูกพระพ่อประหาร เป็นเพราะว่าท่านทรงมีลักษณะเปลี่ยนไปจากปกติทางใจก็เลยท่องเที่ยวออกฆ่าและก็กระทำชำเราผู้คนในวัง เหล่าเจ้าขุนมูลนายก็เลยพากันมอบศาลฎีกาให้พระเจ้ายองโจลงพระอาญาองค์ชายรัชทายาท แม้กระทั้งแม่ขององค์ชายรัชทายาท (พระสนมยองบิน เชื้อสายอี) ก็ยังเอือมสุดจะทนรวมทั้งทูลขอให้พระผู้เป็นเจ้ายองโจทรงลงทัณฑ์พระลูกชายของตนเองเช่นเดียวกัน ข้างหลังประหารพระลูกชายแล้ว พระผู้เป็นเจ้ายองโจได้ทรงแต่งองค์ชายผู้ล่วงลับให้เป็นองค์ชายรัชทายาทใหม่อีกรอบ โดยพระราชทานนามว่า “องค์ชายรัชทายาทซาโด”ถัดมาวันหลังได้กำเนิดข่าวโคมลอยว่าความจริงแล้วองค์ชายรัชทายาทมิได้มีลักษณะเปลี่ยนไปจากปกติด้านจิต
แต่ว่าทรงถูกใส่ร้ายป้ายสีแล้วก็กลายเป็นเหยื่อทางด้านการเมือง ซีรีย์จีน (ถูกเจ้าขุนมูลนายกรุ๊ปโนรนใส่ร้ายป้ายสี) ถึงแม้กระแสข่าวลือดังกล่าวข้างต้นจะขัดกับใจความในหนังสือ “บันทึกความจำของพระนางฮเยคยอง” (เขียนโดยพระมเหสีขององค์ชายรัชทายาท ซึ่งคราวหลังได้ถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษ) ที่เอ๋ยถึงเรื่องราวต่างๆในชีวิตของพระนาง แล้วก็สถานะการณ์เวลาที่องค์ชายรัชทายาททรงมีลักษณะแตกต่างจากปกติทางด้านจิต และก็ในขณะที่ท่านถูกพระพ่อประหาร แม้กระนั้นมูลเหตุที่องค์ชายรัชทายาทถูกพระพ่อลงโทษกระทั่งตายยังคงเป็นที่โต้แย้งรวมทั้งดูมีปมจวบจนปัจจุบันนี้
มังกรหยก The Legend of the Condor Heroes
18 ปีถัดมา กัวจิ้ง ก๊วยเจ๋ง ได้รับคำบัญชาจากคุณครูให้เดินทางลงใต้ทำให้ได้เจอรวมทั้งรักกับ “หวงหรง” อึ้งย้ง แม้กระนั้นความรักของทั้งสองกลับเต็มไปด้วยปัญหาขวากหนามจำนวนมาก ข้างหลังคุณครูอีกทั้งห้าถูกฆาตกรรมบนเกาะดอกท้อ กัวจิ้ง ก๊วยเจ๋ง ก็เลยไปจากหวงหรง อึ้งย้ง ด้วยอารมณ์โกรธโกรธแค้น แต่ว่าข้างหลังผ่านปัญหาและก็ปัญหานานาประการ ทั้งสองก็สมหวังในความรัก ส่วนทางด้านหยางคัง เอี้ยคัง ซึ่งคลั่งไคล้ในลาภตำแหน่งเทิดทูนแล้วก็เห็นด้วยศัตรูเป็นพ่อ ซ้ำยังกดขี่ข่มเหงคนชาติเดียวกัน ไม่บางทีอาจหลีกลี้บาปกรรมพ้นก็เลยตายอย่างน่าอเนจอนาถใจที่วัดเถี่ยเชียงในเมืองเจียสิง
กัวจิ้ง ก๊วยเจ๋ง กับหวงหรง อึ้งย้ง ออกเสี่ยงภัยในยุทธโลกร่วมกัน ซีรีย์จีน ทำให้ได้เจอเหล่ายอดความสามารถมากไม่น้อยเลยทีเดียว ข้างหลังได้รับการถ่ายทอดความรู้จากเหล่าจอมยุทธ ความสามารถของกัวจิ้ง ก๊วยเจ๋ง ก็ปรับปรุงกระทั่งสามารถล้างแค้นให้บิดาและก็คุณครูได้เสร็จ ข้างหลังเจอตำราพิชัยสงคราม “อู่มู่อี๋ซู” ที่หวันเหยียนหงเลี่ย อ้วงง้วนอั้งเลียก อุตสาหะตามหาหมายเอามาปราบมองโกลแล้วก็ซ่ง (ผู้เขียนสมมุติว่าหนังสือเรียนดังที่กล่าวถึงแล้วเขียนโดย “แม่ทัพเยว์เฟย” งักฮุย ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นนายทัพที่วงศ์สกุลซ่งใต้ที่ต้าจินกลัวเกรง) กัวจิ้ง ก๊วยเจ๋ง ก็เลยนำวิชาความรู้ในหนังสือเรียนมาใช้ป้องกันชาติบ้านเมือง ยิ่งกว่านั้น เขายังร่วมการประลองยุทธบนเขาหัวซานอีกด้วย (เขาเป็นเยี่ยมในห้ายอดความสามารถสมัยที่ 2
ณ หมู่บ้านหนิวเจีย ในบ้านนอกไกลห่างชานเมือง “หลินอัน” (หลินอัน เป็นเมืองหลวงของวงศ์สกุลซ่งใต้ อยู่ในดินแดนแถบเจียงดกน หรือทางใต้ของแม่น้ำแยงซีเกียง – ปัจจุบันนี้เป็น เมืองหางโจว ในเขตเจ้อเจียง) สองญาติร่วมสาบาน “กัวเสี้ยวเทียน” ก๊วยเซาเทียน กับ “หยางเถี่ยสิน” เอี๊ยทิซิม ร่ำเหล้าพลางคุยกันท่ามกึ่งกลางลักษณะอากาศเหน็บหนาว ทั้งสองต่างคิดออกอย่างเที่ยงตรงว่าวันนี้เมื่อ 60 ปีกลาย (27 ม.ค. คริสต์ศักราช 1142) แม่ทัพ “เยว์เฟย” งักฮุย ถูกประหาร (ข้างหลังโดนศัตรูทางด้านการเมืองยัดเยียดข้อหา)
หยางเถี่ยสินพร่ำบ่นเสียดายที่ตัวเองกำเนิดช้าเหลือเกิน ไม่อย่างนั้นคงจะได้ร่วมทำศึกสงครามทางภาคเหนือด้วยทวนสกุลหยางของตนเอง (แม่ทัพเครือญาติหยางเป็นตำนานสมัยวงศ์สกุลซ่งเหนือ) แต่กระนั้นตนก็ยังหวังว่าวันใดวันหนึ่งจะได้อุทิศตนเพื่อรับใช้กองทัพเหมือนกับแม่ทัพเยว์เฟย จากนั้นสองชายหนุ่มก็ชนแก้วแล้วก็ร่วมดื่มเพื่อเชิดชูความกล้าหาญของแม่ทัพเยว์เฟย ก่อนขว้างแก้วดื่มเหล้าลงพื้น เมียของทั้งสองซึ่งต่างก็กำลังมีครรภ์ก็เลยรีบออกมาดูด้วยความตระหนกตกใจ
หยางเถี่ยสิน เอี๊ยทิซิม มองเห็นนักพรตคนหนึ่งเดินหิ้วห่อผ้าฝ่าหิมะเข้ามาในหมู่บ้านเพียงลำพังก็เลยส่งสายตาบอกกัวเสี้ยวเทียน ก๊วยเซาเทียน กัวเสี้ยวเทียนมีความเห็นว่านักพรตคนมีชื่อเสียงกล่าวเดินฝ่าหิมะโดยไม่ทิ้งรอยเท้าเอาไว้เบื้องหน้าเบื้องหลังก็รู้สึกเลื่อมใสในวิชาตัวเบาอันดียิ่ง หยางเถี่ยสินก็เลยเสนอให้เชื้อเชิญนักพรตคนที่ใครๆก็รู้จักกล่าวมาร่วมดื่มเหล้าคลายหนาวร่วมกัน ข้างหลังถูกคนที่ไม่รู้จักเชิญชวนให้เข้าไปดื่มสุราในบ้าน นักพรตคนมีชื่อเสียงกล่าวก็รู้สึกไม่ไว้ใจ ทั้งสงสัยว่าทั้งสองอาจมีเจตนาอื่นแฝง แต่กระนั้นก็ตอบรับคำชักชวนแต่ว่าโดยดี
กัวเสี้ยวเทียน ก๊วยเซาเทียน หลีกตัวไปอุ่นเหล้ารวมทั้งของกินจานผักให้นักพรต ซีรีย์จีน ส่วนหยางเถี่ยสิน เอี๊ยทิซิม สมัครใจนำถุงผ้าไปเก็บไว้ให้ นักพรตไม่อยากที่จะให้หยางเถี่ยสินสัมผัสห่อผ้าของตัวเองก็เลยบากบั่นปัดป้อง หยางเถี่ยสินชักเริ่มสงสัยว่าในห่อผ้ามีอะไรก็เลยตอบโต้กลับ ทำให้ถูกนักพรตซัดพลังฝ่ามือใส่แบบเบาะๆกระทั่งไถลออกมาจากโต๊ะ กัวเสี้ยวเทียนมองเห็นโดยเหตุนี้ก็เลยรีบเข้ามาห้ามหยางเถี่ยสิน นักพรตมีความคิดเห็นว่าหยางเถี่ยสินมีวรยุทธกลับซ่อนตัวเป็นชาวไร่ชาวนาในต่างจังหวัดไกลห่าง ก็เลยสงสัยว่าเขาบางทีอาจเป็นคนของทางการสถานที่สำหรับทำงานรับใช้ต้าจิน เมื่อแขกขอคำชี้แจงว่าเพราะอะไรผู้เป็นจอมยุทธถึงมาเร้นกายอยู่ตรงนี้
หยางเถี่ยสินก็เลยถามกลับว่าในห่อผ้ามีอะไรกันแน่ เพราะเหตุไรถึงได้หวงนักหวงดก (เขากล่าวพลางส่งสัญญาณบอกให้เมียถอยออกไปห่างๆ) นักพรตมีความเห็นว่าหยางเถี่ยสินอยากทราบนักก็เลยสลัดห่อผ้าให้มอง “เปาซีรั่ว” เปาเซียะเยียก (เมียของหยางเถี่ยสิน) มองเห็นหัวคนเกลือกออกมาก็กรีดด้วยความตระหนกตกใจ “หลี่ผิง” หลีเพ้ง (เมียของกัวเสี้ยวเทียน) ซึ่งกำลังเตรียมอาหารได้ยินฉะนั้นก็เลยวิ่งออกมามอง กัวเสี้ยวเทียนเลยรีบพาสองสาวเข้าไปหลบในบ้าน
หยางเถี่ยสิน เอี๊ยทิซิม รู้สึกว่านักพรตคนที่ใครๆก็รู้จักกล่าวเป็นมือสังหารก็เลยประเดิมเล่นงาน ก่อนถือทวนสกุลหยางออกมาทำร้ายนักพรต นักพรตมีความเห็นว่าหยางเถี่ยสินเอาจริงเอาจังก็เลยชักกระบี่คู่กายออกมาต่อสู้ ข้างหลังพาสองสาวไปหลบในที่ปลอดภัย กัวเสี้ยวเทียน ก๊วยเซาเทียน ก็รีบออกมายืนมองหยางเถี่ยสินต่อสู้กับนักพรตด้วยความเป็นห่วงเป็นใย พอได้มองเห็นเพลงทวนของหยางเถี่ยสิน นักพรตก็รู้เท่าทันครั้งว่านี่เป็นเพลงทวนสกุลหยางที่ตกทอดกันมารุ่นต่อรุ่น เขาก็เลยหยุดต่อสู้รวมทั้งเชิดชูความสามารถของหยางเถี่ยสิน ก่อนถามคำถามว่า “หยางแรงยสิน” (หนึ่งในแม่ทัพของวงศ์สกุลซ่งใต้ เป็นลูกน้องของ “เยว์เฟย” งักฮุย) เป็นบรรพบุรุษของหยางเถี่ยสินใช่หรือเปล่า
เมื่อหยางเถี่ยสินตอบว่าใช่ ซีรีย์จีน นักพรตก็เลยทายใจออกว่าทวนที่หยางเถี่ยสินใช้เป็นทวนของทหารสกุลหยางนักพรตสงสัยว่ากัวเสี้ยวเทียน ก๊วยเซาเทียน เป็นคนใดกันแน่ กัวเสี้ยวเทียนก็เลยบอกชื่อแซ่ของตนเอง หยางเถี่ยสิน เอี๊ยทิซิม เสริมว่า กัวเสี้ยวเทียนเป็นญาติร่วมสาบานของตัวเองและก็ยังเป็นบุตรหลานของ “กัวเซิ่ง” (หนึ่งใน 108 ผู้กล้าที่เขาเหลียงซาน) อีกด้วย พอเพียงทราบว่าสองชายหนุ่มต่างเป็นบุตรหลานของทหารกอบกู้ชาติ ไม่ใช่คนของทางการอย่างที่ตนคิด นักพรตก็เลยพูดขออภัยที่หลงผิด ที่จริงนักพรตคนที่ใครๆก็รู้จักกล่าวอีกนัยหนึ่ง “ชิวฉู่จี” คูชู่กี หนึ่งในเจ็ดนักพรตเต๋าที่ “สำนักฉวัดเฉวียนเจิน” สำนักช้วนจินก่า สองชายหนุ่มได้ยินโดยเหตุนั้นก็รู้สึกยินดีที่ได้เจอยอดความสามารถผู้โด่งดัง (ซึ่งมักตามเด็ดหัวคนหักหลังชาติ)
ก็เลยชักชวนนักพรตชิวฉู่จีเข้าไปร่ำเหล้าแล้วก็กินอาหารในบ้านอีกรอบทั้งยังสามคนยังไม่ทันเข้าบ้านก็มีกรุ๊ปชายชุดสีดำควบม้าฝ่าหิมะเข้ามาในหมู่บ้าน ชิวฉู่จี คูชู่กี บอกว่าตนฆ่าคนทรยศชาติ เขาเหล่านั้นก็เลยมาตามล่าตน เขาไม่อยากให้สองชายหนุ่มลำบากก็เลยบอกให้ทั้งสองรีบเข้าไปหลบในบ้านรวมทั้งห้ามออกมาด้านนอกเด็ดขาด ต่อจากนั้นก็ต่อกรกับศัตรูที่ใช้ธนูรวมทั้งกระบี่เป็นอาวุธโดยลำพัง หยางเถี่ยสิน เอี๊ยทิซิม ไม่บางทีอาจทนมองชิวฉู่จีต่อสู้เพียงผู้เดียวก็เลยนึกออกไปช่วย แม้กระนั้นเปาซีรั่ว เปาเซียะเยียก
เมียของเขาห้ามเอาไว้ ชายชุดสีดำคนหนึ่งเล็งธนูไปที่ชิวฉู่จี แต่ว่าชิวฉู่จีปัดป้องเอาไว้ได้ แถมลูกศรยังพุ่งกลับไปปักอกชายคนที่ใครๆก็รู้จักกล่าวเสียเอง ข้างหลังชิวฉู่จีปราบกรุ๊ปชายชุดสีดำได้หมดแล้ว หยางเถี่ยสินกับกัวเสี้ยวเทียน ก๊วยเซาเทียน ก็เลยออกมาตรวจว่าผู้บุกรุกเป็นผู้ใดกันแน่ ที่จริงกรุ๊ปชายชุดสีดำเป็นคนของอาณาจักรต้าจิน กิม ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของต้าซ่ง ชิวฉู่จีชี้ว่าตนเพิ่งจะตัดศรีษะ “หวังเต้าเฉียน” (เจ้าขุนมูลนายทหารของวงศ์สกุลซ่งใต้ที่คบคิดรวมทั้งรับสินบนจากต้าจิน) พวกจินเลยตามมาล้างแค้นตน
รักนี้หัวใจไม่อาจลืม (Loving, Never Forgetting)
เมื่อหลายปีที่ผ่านมา “ลี่จ้งโหมว” ประธานกรุ๊ปบริษัทลี่ซื่อ เคยมีความเกี่ยวข้องเลวทรามข้ามคืนกับนักศึกษาฝึกงานนามว่า “อู๋ถง” แม้กระนั้นเขาลืมคุณรวมทั้งเหตุที่เกิดขึ้นในตอนนั้นไปแล้ว จวบจนกระทั่งเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นในพิธีการเปิดโฮเต็ลเซิ่งหัว (ของลี่ซื่อกลุ่ม) ทำให้เด็กผู้ชาย “อู๋ถงถง” (ลูกชายอู๋ถง ซึ่งมารอลายเซ็นศิลปินดัง “จางม่านตี๋”) ได้รับบาดเจ็บ ลี่จ้งโหมวก็เลยรีบพาเด็กน้อยไปส่งโรงหมอ เมื่ออู๋ถงรู้ข่าวสารก็เลยรีบรุดไปที่แผนกเร่งด่วนและก็ได้รับแจ้งข่าวร้ายว่าถงถงเสียเลือดมากมายก็เลยต้องให้เลือดโดยเร่งด่วนไม่อย่างนั้นจะเกิดอันตรายถึงชีวิต ปัญหาก็คือช่วงนี้โรงหมอกำลังขาดเลือด (ที่เข้ากันได้กับเลือดถงถง)
กว่าเลือดสำรองจะถูกส่งมาจะต้องใช้เวลานานถึง 5 ชั่วโมงซึ่งสายเหลือเกิน ซีรีย์จีน ซ้ำยังเลวร้ายยิ่งไปกว่านั้นอู๋ถงยังมีเลือดคนละกลุ่มกับลูกชายอีกด้วยในเวลาที่ถงถงกำลังพบเจอความเป็นความตายอยู่นั้น ลี่จ้งโหมวได้เดินเข้ามาถามแพทย์เกี่ยวกับลักษณะของถงถง อู๋ถงพากเพียรวิงวอนลี่จ้งโหมว (ซึ่งจำคุณมิได้ด้วย) ให้ช่วยบริจาคเลือดเพื่อช่วยเหลือถงถง ลี่จ้งโหมวสงสัยว่าเพราะเหตุไรอู๋ถงถึงทราบดีว่าตนเลือดกลุ่มอะไรรวมทั้งขอเหตุผลว่าเพราะเหตุไรควรเป็นตน อู๋ถงเป็นไปไม่ได้เลือกเลยต้องพูดว่าถงถงเป็นลูกชายของเขา
แม้ว่าจะรู้สึกงวยงงรวมทั้งยังไม่ปักใจเชื่อแม้กระนั้นลี่จ้งโหมวก็ยอมบริจาคเลือดให้ถงถงแม้กระนั้นโดยดี ข้างหลังตรวจดีเอ็นเอแล้วพบว่าถงถงเป็นลูกชายของตนเองจริง ลี่จ้งโหมวก็เลยยื่นฟ้องศาลเพื่อขอสิทธิสำหรับการอุปถัมภ์ลูกแต่เพียงผู้เดียวถึงแม้สถานะด้านการเงินจะไม่สู้ดีนัก แต่ว่าอู๋ถงเพียรพยายามสู้สุดชีวิตเพื่อไม่ให้ลูกชายที่เลี้ยงมาด้วยความยากลำบาก ทั้งเป็นแก้วตาดวงใจถูกลี่จ้งโหมวพรากไป รวมทั้งทนายความเพียงผู้เดียวที่ยอมช่วยคุณต่อสู้คดีก็คือ “เซี่ยงจวิ้น” น้องชายต่างมารดาและก็ศัตรูของลี่จ้งโหมว
แม้กระนั้นในที่สุดลี่จ้งโหมวเป็นข้างชนะคดีรวมทั้งได้สิทธิสำหรับเพื่อการอุปถัมภ์ค้ำชูถงถง ในเวลาถัดมาลี่จ้งโหมวซึ่งเคยคร่ำครวญหาความรักความอบอุ่นจากแม่เมื่อครั้งยังเป็นเด็ก ไม่อยากที่จะให้ลูกเติบโตโดยขาดความรักจากผู้เป็นแม่เหมือนกันกับตนก็เลยยอมอู๋ถงร่วมเลี้ยงถงถง ลี่จ้งโหมวรู้สึกถูกใจในความเชื่อมโยงอันอบอุ่นแล้วก็สุภาพของสองแม่ลูกก็เลยหลงเสน่ห์อู๋ถง แต่เซี่ยงจวิ้นเองก็ตกหลุมรักอู๋ถงเหมือนกัน
นางพญาบัลลังก์มังกร (The Legend of Xiao Zhuang)
โดยเสนอเรื่องราวของ “ต้าอวี้เอ๋อร์” (ชื่อเต็ม “ปู้มู่ปู้ไท่”) หลานสาวหัวหน้ามองโกลเผ่าเคอเอ่อร๋ชิ่น (Khorchin) จากสกุลป๋อเอ่อร์จี๋จี๋เท่อ (Borjigit) ซึ่งเป็นสกุลที่สืบทอดมาจากเจงกิสข่าน ละครไล่เรียงเรื่องราวตั้งแต่แมื่อคุณยังเป็นเพียงแค่เด็กผู้หญิงใสซื่อที่ฝันต้องการดำรงชีวิตอิสระในท้องทุ่งกับชายที่ตนรัก “ตัวเอ่อร์กุ่น” แต่ว่าชะตากรรมกลับแกล้งให้คุณสมรสกับข่านต้าจิน “หวงไท่จี๋” (พี่ชายต่างมารดาของตัวเอ่อร์กุ่น) รวมทั้งมอบภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่สำหรับการเป็นมารดาของแผ่นดินให้คุณแทนละครประเดิมขึ้นในปี คริสต์ศักราช 1626 (พุทธศักราช 2169) ข่านที่อาณาจักรต้าจิน “หนูเอ่อร์ฮาชื่อ” และก็ “หวงไท่จี๋” (บุตรผู้ที่ 8 ของหนูเอ่อร์ฮาชื่อ)
ได้นำกองทัพนับแสนบุกโจมตีเมืองหนิงหย่วน* ของวงศ์สกุลหมิง (ต้าหมิง) แต่ว่าแม่ทัพหมิง “หยวนฉงฮ่วน” ซึ่งมีกำลังพลเพียงแค่หมื่นกว่านาย ตั้งรับด้วยการนำปืนใหญ่ประเทศโปรตุเกสมาจัดตั้งบนกำแพงเมืองแล้วกระหน่ำยิงใส่กองทัพต้าจินที่บากบั่นบุกจู่โจม “ตัวเอ่อร์กุ่น” (ลูกชายผู้ที่ 14 ของหนูเอ่อร์ฮาชื่อ) ซึ่งยืนมองเรื่องราวจากในค่าย (กองทัพต้าจินตั้งแคมป์ทหารรอบเมืองหนิงหย่วน) มีความคิดเห็นว่าทหารข้างตนเจ็บตายเยอะๆก็เลยควบม้าฝ่าลูกกระสุนใหญ่ไปช่วยหวงไท่จี๋รบอย่างกล้าหาญแล้วก็ฆ่าทหารต้าหมิงได้ไม่น้อยเลยทีเดียว หนูเอ่อร์ฮาชื่อมองเห็นด้วยเหตุผลดังกล่าวก็รู้สึกภูมิใจ แต่กระนั้นก็ไม่อาจจะทำให้เหตุการณ์ดียิ่งขึ้น
พอมีความเห็นว่าต้าหมิงเริ่มประเดิมรุกรานด้วยการยิงปืนใหญ่กระหน่ำค่ายทหารของพวกตน (กองทัพต้าจินประเมินระยะปืนใหญ่ของต้าหมิงบกพร่อง ก็เลยตั้งแคมป์ทหารใกล้กำแพงเมืองเยอะเกินไป) หวงไท่จี๋ก็เลยบอกให้ตัวเอ่อร์กุ่นรีบกลับไปช่วยพ่อ พอเพียงไปถึงตัวเอ่อร์กุ่นก็พบว่าค่ายทหารของตนเองถูกปืนใหญ่ต้าหมิงทำลายจนถึงบรรลัย ซ้ำยังถูกทหารต้าหมิงบุกจู่โจม แถมพ่อยังได้รับบาดเจ็บรุนแรงจากปืนใหญ่ (เป็นการแพ้แบบเยินทีแรกของหนูเอ่อร์ฮาชื่อ) ตัวเอ่อร์กุ่นก็เลยหามพ่อฝ่าวงล้อมศัตรูพร้อม “ตัวตั๋ว” (ลูกชายผู้ที่ 15 ของหนูเอ่อร์ฮาชื่อ เป็นน้องชายแท้ๆของตัวเอ่อร์กุ่น)
“หนูเอ่อร์ฮาชื่อ” เป็นชาวหนี่ว์เจินสกุลอ้ายสินเจว๋หลัวที่เก็บรวบรวมชนเผ่าหนี่ว์เจินมากมายกรุ๊ปเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้เสร็จ ต่อจากนั้นก็เลยตั้งตนเป็น “ข่าน” แล้วก็จัดตั้งขึ้นอาณาจักรต้าจินในดินแดนแมนจูเรีย (ตอนหลังถูกเรียกว่า “โฮ่วจิน” หรือจินสมัยข้างหลังเพื่อคุ้มครองความสับสน เพราะว่าหลายร้อยปีกลายหน้านั้นชนเผ่าหนี่ว์เจินเคยแต่งตั้งวงศ์สกุลจินหรือต้าจินมาแล้ว) ทั้งวางระบบกองทัพแปดกองธงให้อดทนแล้วก็มีคุณภาพมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็เป็นคนนำกองทัพบุกจู่โจมวงศ์สกุลหมิงกับวงศ์สกุลโชชอน
โดยสามารถครอบครองแหลมเหลียวตงซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของต้าหมิงได้เสร็จ (ยุคยังมีชีวิตอยู่เขาดำรงสถานะเป็น “ข่าน” ก็เลยไม่มีชื่อแต่งในฐานะกษัตริย์ แม้กระนั้นข้างหลังเสียชีวิตได้ถูกตั้งเป็นจักรพัตราธิราช “ชิงไท่จู่”)หวงไท่จี๋” (บ้างก็เขียน “หงไท่จี๋” แม้กระนั้นในละครเรียก “หวงไท่จี๋”) เป็นบุตรของหนูเอ่อร์ฮาชื่อและก็ต้าเฟย (มเหสีเอก) ผู้เสียชีวิตจากสกุลเย่เฮ่อน่าลา เขาเป็น “ข่าน” ผู้ที่สองรวมทั้งคนท้ายที่สุดของต้าจิน ข้างหลังขึ้นเป็นข่านต่อจากพ่อ หวงไท่จี๋ได้เปลี่ยนแปลงชื่อชนเผ่าจาก “หนี่ว์เจิน” เป็น “แมนจู” แล้วก็เปลี่ยนแปลงชื่ออาณาจักรจาก “จิน” เป็น “ชิง” ทั้งเลื่อนชั้นตนจาก “ข่าน” เป็น “พระราชาธิราช
เท่ากันจักรพัตราธิราชวงศ์สกุลหมิง แม้กระนั้นหนูเอ่อร์ฮาชื่อ (พ่อของหวงไท่จี๋) ซีรีย์จีน มักถูกเอ๋ยถึงในฐานะผู้จัดตั้งรวมทั้งปฐมจักรพัตราธิราชที่วงศ์สกุลชิงหวงไท่จี๋ซึ่งหลบอยู่ในที่ปลอดภัยให้ลูกน้องไปสืบข่าวสารพ่อและก็ตัวเอ่อร์กุ่น เมื่อลูกน้องนำเศษเสื้อของพ่อมาให้มอง เขาก็รีบเดินทางกลับเมืองหลวง (“เซิ่งจิง” หรือ “มุกเดน” – ตอนนี้เป็นเมืองเสิ่นหยาง) หมายเข้าคุมสถานการณ์แล้วก็ชิงอำนาจก่อนที่จะญาติผู้อื่นจะลงมือเนื่องจากนึกว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว อีกด้านหนึ่งตัวตั๋วกับตัวเอ่อร์กุ่นช่วยเหลือกันดูแลพ่อขณะถอบกลับ พอมีความคิดเห็นว่าพ่อเจ็บหนักจนถึงเดินต่อไปไม่ไหว ตัวเอ่อร์กุ่นก็เลยพาทหารบุกไปขวางรถม้าที่บังเอิญวิ่งผ่านมา
ปรากฏว่าคนที่อยู่ในรถม้าเป็นหลานสาวของ “หม่างกู่ซือ” หัวหน้ามองโกลเผ่าเคอเอ่อร๋ชิ่น (พ่อ “เจ๋อเจ๋อ” มเหสีหวงไท่จี๋) ซึ่งใครๆต่างเรียกคุณว่า “ต้าอวี้เอ๋อร์” (และก็ “เก๋อเก๋อ” ซึ่งก็คือหนูน้อย) หากแม้มิได้เจอหน้ากันมานานแม้กระนั้นตัวเอ่อร์กุ่นจำรักแรกพบได้โดยทันที ข้างหลังรู้ดีว่าหนูเอ่อร์ฮาชื่อบาดเจ็บอย่างรุนแรง อวี้เอ๋อร์ก็เลยให้ “เลวทรามเอ่อร์จักจี้” แพทย์เทพยดาชาวมองโกล (ที่ติดตามคุณมา) ช่วยรักษาขณะเดินทางกลับเมืองหลวง หวงไท่จี๋ได้รับแจ้งว่าพ่อยังมีชีวิตก็เลยใช้หินตีขาตนเองก่อนควบม้าไปพบพ่อ โดยพูดปดว่าที่ตนมิได้ตามไปช่วยเป็นเนื่องจากถูกทหารต้าหมิงรุมล้อมแล้วก็ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดของลูกปืนใหญ่ทำให้สลบ
ครั้นเมื่อออกตามหาพ่อก็เจอเพียงแต่เศษเสื้อผ้า ข้างหลังกลับวังหนูเอ่อร์ฮาชื่อถามหาการบาดเจ็บของหวงไท่จี๋ เลวทรามเอ่อร์จักจี้ชี้ว่าหวงไท่จี๋มิได้รับเจ็บจากปืนใหญ่ก็เลยไม่เป็นอะไรมากมายและไม่มีอะไรน่ากังวล ต่อไป “อาขว้างไฮ่” (มเหสีเอกของท่านข่าน) รวมทั้งลูกชายทั้งยังสาม (“อาจี้เก๋อ” ตัวเอ่อร์กุ่น รวมทั้งตัวตั๋ว) รวมถึงอวี้เอ๋อร์ (ซึ่งถูกปู่ส่งมาดูแลหนูเอ่อร์ฮาชื่อ) ก็เข้ามามองอาการหนูเอ่อร์ฮาชื่อด้วยความเป็นห่วงเป็นใยอาขว้างไฮ่” เป็นชาวแมนจูสกุลอูลาน่าลา รวมทั้งเป็นต้าเฟย (มเหสีเอก) ของหนูเอ่อร์ฮาชื่อ (คำเรียกมเหสีเอกว่า “ต้าเฟย” ใช้เพียงแค่ช่วงสั้นๆในสมัยหนูเอ่อร์ฮาชื่อ) ขณะเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินตัวเอ่อร์กุ่นได้เลื่อนชั้นแม่ผู้ตายเป็น “พระราชินีเสี้ยวเลี่ยอู่”
แต่ว่าข้างหลังตัวเอ่อร์กุ่นเสียชีวิตจักรพัตราธิราชชุ่นจื้อ (ฝูหลิน) ได้เลิกตำแหน่งแล้วก็ชื่อดังที่กล่าวถึงแล้ว ทั้งนำป้ายชื่อนางออกมาจากศาลบูรพกษัตริย์อีกด้วยแม้ว่าจะปราชัยศึกกลับมา แม้กระนั้นหนูเอ่อร์ฮาชื่อประกาศตบรางวัลให้สามลูกพี่ลูกน้อง อาจี้เก๋อ ตัวเอ่อร์กุ่น แล้วก็ตัวตั๋ว ด้วยการมอบอำนาจทางด้านการทหาร (มอบกองธง หรือกองกำลังทหาร) โดยอาจี้เก๋อกับตัวตั๋วได้กำลังพลคนละเท่าๆกัน ส่วนตัวเอ่อร์กุ่นได้มากที่สุด ทำให้มีการเกิดกระแสข่าวลือแพร่กระจายว่าหนูเอ่อร์ฮาชื่อจะชูตำแหน่งข่านให้ตัวเอ่อร์กุ่น
ขณะดูแลหนูเอ่อร์ฮาชื่อ อาขว้างไฮ่ขอให้เขาแต่งตัวเอ่อร์กุ่นเป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง หนัง อิโรติก 18+ หนูเอ่อร์ฮาชื่อเองก็ต้องการทำแบบนั้นก็แค่ยังไม่ถึงเวลาเนื่องจากตัวเอ่อร์กุ่นอายุยงยังน้อยและไม่ส่งผลงานอันสะดุดตา แรกเริ่มเขาคิดที่จะพาตัวเอ่อร์กุ่นไปสร้างผลงานสำหรับการออกศึก ไม่คาดฝันว่าจะแพ้ศึกกลับมาตัวเอ่อร์กุ่นเป็นห่วงการบาดเจ็บของพ่อรวมทั้งหวงไท่จี๋ ก็เลยย่อเข่าขอความช่วยเหลือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยคุ้มครองป้องกันทั้งคู่ให้ไม่มีอันตราย เพราะเหตุว่าทั้งสองต่างเป็นผู้ที่เขารัก ทั้งเป็นเสาหลักและก็กำลังสำคัญของต้าจิน
เมื่ออวี้เอ๋อร์มามองเห็นเข้าก็เลยยอตัวประนมมือเคียงคู่ตัวเอ่อร์กุ่น ซีรีย์จีน ครั้นเมื่อได้ยินตัวเอ่อร์กุ่นขอใช้อายุขัย 30 ปีของตัวเองแลกเปลี่ยนกับความปลอดภัยของพ่อแล้วก็หวงไท่จี๋ อวี้เอ๋อร์ก็โต้แย้งรวมทั้งว่ากล่าวตัวเอ่อร์กุ่นเป็นการใหญ่ อีกทั้งกล่าวว่าถ้าเกิดตัวเอ่อร์กุ่นอยากได้แบบนั้นจริง คุณจะขอตัดทอนอายุขัยของตัวเองด้วยเหมือนกันอาขว้างไฮ่ส่งคนรับใช้ชื่อ “อาฮวน” มายอดเยี่ยมรวมทั้งนำน้ำซุปมาให้หวงไท่จี๋แต่ว่าหวงไท่จี๋ปฏิเสธความเอื้อเฟื้ออาขว้างไฮ่ “เจ๋อเจ๋อ” (มเหสีหวงไท่จี๋) ก็เลยบอกอาฮวนว่าหวงไท่จี๋อาการดี
ยิ่งขึ้นมากมายแล้วรวมทั้งฝากขอบคุณมากอาขว้างไฮ่ที่กังวล เมื่อทราบดีว่าหวงไท่จี๋ไม่ยอมรับความประสงค์ดีของตัวเองอาขว้างไฮ่ก็เลยเปรยๆว่าหวงไท่จี๋ตั้งตนเป็นข้าศึกกับคุณ เจ๋อเจ๋อไม่เห็นพ้องที่หวงไท่จี๋หักหาญน้ำใจอาขว้างไฮ่ หวงไท่จี๋พูดว่าถ้าเกิดตนกินน้ำแกงอาขว้างไฮ่ก็พอๆกับดูแคลนลูกพี่ลูกน้องผู้อื่นแล้วก็รังควานตัวเอ่อร์กุ่น เขาชี้ว่าพ่อตนมอบสิทธิ์ทางด้านการทหารให้ลูกทั้งยังสามของนาง เหล่าบรรดาญาติพี่น้อง (ต่างมารดา) คนอื่นก็เลยรู้สึกไม่ชอบใจ ถ้าเกิดตนกินน้ำแกงของนาง ญาติพี่น้องพวกนั้นจะหาเรื่องไม่ชอบใจตนรวมทั้งยิ่งชิงชังตัวเอ่อร์กุ่น เนื่องจากตนมองเห็นตัวเอ่อร์กุ่นเป็นราวกับน้องชายแท้ๆ
