เวฟ บ้านผลบอล

เวฟ บ้านผลบอล

เวฟ บ้านผลบอล

เวฟ บ้านผลบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ไปไกลที่สุดแค่รอบ 16 กลุ่มท้ายที่สุดเท่านั้น

หลากหลายนัดที่ผู้ชมทางบ้านอย่างผมดูแล้วไม่ได้อยากชมต่อ
ดูแล้วก็เกิดอาการอยากกระโดดถีบทีวีให้พังคาตีนขึ้นมาคราม Cunt บางนัดทนชมถัดไปมิได้ ไม่เข้าใจเช่นกันว่าหมวดมึงเล่นเฮียอะไรกัน โดยจัดเป็นฤชมกาลที่อุดมด้วยความท้อแท้ และสิ้นหวัง ระคนความน่าเบื่อ และน่าละเหี่ยใจจำนวนเยอะที่สุดอย่างที่ไม่เคยเกิดมากยิ่งขึ้น่อน

ต้นแบบการเล่นสะเปะสะปะ ต่างคนต่างเล่น เว ฟ บ้านผลบอล อาศัยสมรรถภาพเฉพาะเจาะจงตัวเป็นพื้น แล้วแก้ไขปัญหาเจาะจงหน้าไปครั้งละชอต ไม่มีระบบ ไร้ทีมเวิร์ค และไร้กฏเกณฑ์

ทีมยอดเยี่ยมแห่งปี พรีเมียร์ลีก 2020/21 โดยสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) - Pantip

แบบฟอร์มการเล่นก็ผีเข้า-ผีออก เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ไม่มีความสม่ำเสมอไปอาจเส้นอาจวา

เกมรุก – ขนาดสากกะเบือยังควรต้องยกมือไหว้ เพราะว่ามันไม่มีจินตนาการ ไม่มีความมากมาย แถมนำไปใช้จากลูกเซ็ตพีซแทบจะมิได้

เพลย์เมคเกอร์อย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ฟอร์มตกเละเทะ

ปอล ป็อกบา ก็ไม่เคยหวังพึ่งอะไรได้อยู่แล้ว

อ็องโตนี่ มาร์ซิยาล – มาร์คัส แรชฟอร์ด และเจดอน ซานโช่ ทำตัวน่าหมดหวัง เช่นเดียวกับการกระทำนอกสนามของ เมสัน กรีนวู๊ด

ช่วงเวลาที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เวฟ บ้านผลบอล แบกทีมจนหลังแอ่นยังตกเป็นแพะรับบาปให้ไอ้หมวดหมู่ดูบอลไม่เป็นมันค่อนขอด
เกมรับ- ตกต่ำยิ่งขึ้นด้วยซ้ำ ด้วยเหตุว่าอุดมด้วยความบกพร่องจำเพาะบุคคล ทั้งเสียประตูง่าย พร้อมมอบประตูให้คู่แข่งตลอดระยะเวลาแบบไม่มีเหตุมีผล และไม่ต้องการที่จะอยากความเข้าใจใดๆ ทั้งสิ้น

แฮร์รี่ แม็กไกวร์ คือบุตรแห่งความขาดหายนะตัวจริง

ราฟาแอล วาราน ผ่านพ้นขณะน้ำกระฉูดแตกไปเรียบร้อย

วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ก็เป็นเพียงกองข้างหลังดาดๆ คนหนึ่ง

ส่วนฟูลแบ็คทั้ง 2 ข้าง ค่าตัวรวมกันกว่า 100 ล้านปอนด์ดันเล่นเกมรับกับเกมรุกกันไม่เป็น

เหนือสิ่งอื่นใดคือหมู่แม่ง เอ๊ย! หมวดหมู่เขาไม่แสดงออกถึงความมุ่งมั่นและทุ่มเท

เช่นเดียวกับไร้จิตวิญญาณนักสู้ เหมือนกลุ่มอะไรก็ไม่ทราบที่เอาเครื่องแบบอสุรกายแดงมาห่อหุ้มร่างกายเพียงแค่นั้น

แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดฉากอย่างเร้าใจด้วยการถล่ม เวฟ บ้านผลบอล  ลีดส์ ยูไนเต็ด 5-1 บนแบบฟอร์มการเล่นอันเปล่งปลั่งอย่างน่าสยดสยองพลางจุดประกายแห่งความคาดหมายของบรรดาเด็กผีให้เจิดจ้า

นัดหลังจากนั้นดันทำแล้วได้แค่เสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-1 ซะอย่างนั้น !!!

แต่ผู้ชมทางบ้านอย่างผมเริ่มต้นพิจารณาปรากฏถึงความเกลียดชังมาพากลในเกมที่ 3 ของฤชมกาล ถึงแม้นพลพรรคซาตานแดงบุกไปเชือด วูล์ฟส์ หวุดหวิด (1-0) ก็ตาม

ฟอร์มการเล่นเข้าขั้นโหลยโท่ย

ไอ้ที่ไม่เสียประตู ไม่ได้เป็นผลมาจากการเล่นเกมรับที่เหนียวแน่นหรือหนักแน่นอะไร แต่เนื่องมาจากกลุ่มคู่แข่งเอาจังหวะเยอะมากของตนเองไปโยนทิ้งลงโถส้วมต่างหาก

พูดโดยง่าย ว่าชนะแบบฟัคกลิ้งฟลุ๊ค มิได้ชนะด้วยเอกสารการเล่นอันน่าประทับใจในรูปทรง

เกมเปิดตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ฟอร์มการเล่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาไฉไลอีกสักที เมื่อเปิดบ้านถล่ม นิวคาสเซิ่ล 4-1 “พี่โด้” กระหน่ำคนเดียว 2 ดอก แต่เกมต่อจากนั้นที่บุกไปเชือด เวสต์แฮม 2-1 จัดเป็นชัยชนะที่ได้มาอย่างกระท่อนกระแท่น และรอดพ้นจากการถูกตีเสมอ เมื่อ มาร์ค โนเบิ้ล สังหารจุดโทษพลาด

ข้างหลังจากนั้น “ที่จริง” ก็เริ่มเห็นอย่างกระจ่างแจ้งขึ้นเรื่อยๆ

แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ แอสตัน วิลล่า คาถิ่น และทำเป็นแล้วได้แค่เสมอไป เอฟเวอร์ตัน ในบ้าน ตามมาด้วยการออกไปถูก เลสเตอร์ ถลุง 4-2 ก่อนที่จะถึงวันโลกาวินาศ เมื่อถูกคู่แสืบค้นอย่าง ลิเวอร์พูล เอาเลื่อยไฟฟ้ายัดเข้าไปในรูทวารหนักที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา หมดความชอบธรรมในตำแหน่งผู้จัดการทีมนับตั้งแต่วินาทีนั้น

ศึกษาตามดิ่งว่า “น้าลูกอม” ในสายตาของผมเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาที่หน่อมแน้มไปไม่หน่อยนะขอรับ
จริงอยู่ที่เขาเคยพาลูกกลุ่มเข้ารอบตัดเชือกฟุตบอลถ้วยหลายๆรายการ และเข้าชิงชนะเลิศ ยูโรปา ลีก รวมถึงได้ “รองแชมป์” พรีเมียร์ลีก

มิแค่นั้นยังเคยคิดแผนให้ลูกทีมพิชิตโคตรกลุ่มอย่าง แมนฯ ซิตี้ ได้อย่างเป็นสม่ำ

แต่โดยรวม ไม่บ่งบอกถึงถึงความเป็นยอดผู้ชี้แนะ มิซ้ำยังปอดแหก สุภาพ และเรียบร้อยมากเกินไปจนปราศจากความน่าขามเกรง แก้เกมไม่เก่ง สนิมสร้อย และโดยส่วนมากจะตกลงใจบกพร่องเสมอ

ระหว่างเกือบจะ 3 ปีที่วางตะโพกบนเก้าอี้พ่อใหญ่แห่ง โอลด์ แทรฟฟอร์ด พอเพียงที่จะประเมินได้ว่า “มือไม่ถึง” ไม่แตกต่างจากผู้จัดการทีมอย่าง เดวิด มอยส์

ได้โปรดกรุณาอย่าเอาไปเปรียบเทียบกับที่ปรึกษาของคู่แข่งอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า, เหน้าจอร์เก้น คล็อปป์, โธมัส ทูเคิ่ล

มันคนละตีน และบางทีอาจไม่เว้นแม้กระทั้ง มิเกล อาร์เตต้า ด้วยซ้ำ

แทนที่จะทำอะไรสักอย่าง ไอ้พวกประธานเฮงซวยกลับทำเป็นทองไม่ทราบร้อนปลดปล่อยให้เขาปู้ยี่ปู้ยำกลุ่มถัดไป…ซะอย่างนั้น

ท้ายสุดก็ไม่รอด เมื่อถูกทีมท้ายหมายกำหนดการอย่าง วัตฟอร์ด ยัดเยียดความบรรลัยให้แบบเสียน้องหมา

ต่อเมื่อ ราล์ฟ รังนิค เข้ามาคุมทีมแบบรักษาการแทนพร้อมอารามดีใจของบรรดาเด็กผีที่หลงระเริงว่าเขาคือที่ปรึกษาลำดับชั้น “ศาสตราจารย์”

ระหว่างนั้นผมตะหงิดๆ อยู่แล้วนะขอรับว่าการห่างเหินจากการคุมทีมไปช้านานกว่า 2 ปี และเกียรติประวัติระดับแดูเปี้ยนส์ที่น้อยไปหน่อย มันจะช่วยอะไรได้สักมากแค่ไหนกัน

แต่เมื่อแต่งตั้งเข้ามาแบบชั่วคราวกับก็จะต้องปลดปล่อยเลยตามเลย
เจ้าของสมญา “เดอะ โปรเฟสเซอร์” สัญจรมาที่โรงละครแห่งความฝันพร้อมปรัชญาการเล่นด้วยระบบ 4-2-2-2 เพรสซิ่งและบีบสูงพลางจู่โจมแบบลอบฆ่า

นัดแรกที่ “ลุงลาบ” คุมทีม เอาชนะ คริสตัล พาเลซ 1-0 ลูกทีมสนองปรัชญาการเล่นของคนแนะนำคนใหม่ได้อย่างดีเยี่ยมที่สุดดีนักแล

อนิจจา…มันเป็นเพียงแค่การเคาะหมาให้กะลาดีใจ เนื่องมาจากทำเช่นนั้นได้แค่นัดแรก และนัดเดียว

ย้ำว่าแค่นัดแรกและนัดเดียว

ไม่ใช่เรื่องน่าฉงนใจอะไร เนื่องมาจากผู้เล่นชุดนี้ของ แมนฯ ยูไนเต็ด คือทีมรวมดาวกระจายที่มาจากนักบริหารกลุ่มในสมัยก่อนคนไม่ใช่น้อยอย่าง เดวิด มอยส์, หลุยส์ ฟาน กัล, โชเซ่ มูรินโญ่ และโอเล่ กุนนาร์ โซลชา โดยมิได้ถูกเลือกจากคนแนะนำเพียงคนเดียว เพื่อจะให้ตรงตามปรัชญาการเล่นของตนเองเอง

อย่างกับด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงเกิดเรื่องยากที่จะหล่อหลอมให้ทุกคนกลับกลายเป็นเนื้อเดียวกัน

พละกำลังของผู้เล่นซาตานแดงชุดนี้ไม่เพียงพอจะเล่นตามปรัชญาลูกหนังของอาจารย์ที่ปรึกษาคนใหม่ที่ต้องใช้เรี่ยวแรงมหาศาล

จิตใจก็ปลาซิวสิ้นดี เบสิค-ความเชี่ยวชาญการรับส่งบอล ความรู้ความเข้าใจในเกมบัดซบและตบชัก

เล่นไปเล่นมาก็แจ่มแจ้งขึ้นเรื่อยๆ ว่านักเตะไม่เอาขั้นตอนเล่นแบบนี้ เพราะว่ามันเหนื่อยเกินความจำเป็น และไม่สนุกสนาน

ท้ายสุด ราล์ฟ รังนิค ก็ยอมยกธงขาวเอาระบบ 4-2-2-2 เกเก้นเพรสซิ่งอะไรนั่นยัดกลับเข้าไปในลิ้นชักแล้วหันกลับมาใช้ระบบเดิมที่นักเตะเคยชินคือ 4-2-3-1 สลับกับ 4-3-3
รู้เรื่องครับผมว่าฝีเท้าทายและทัศนคติของผู้เล่นชุดนี้ต่ำตมแบบสุดฤทธิ์ แต่ถ้ามันล่มจม ผู้จัดการกลุ่มก็จำเป็นที่จะต้องหาทางแก้ไขให้จงได้ ไม่ใช่ปลดปล่อยไปตามยถากรรม

ในเมื่อมันย่ำแย่ คุณก็จะต้องฝึกฝนซ้อมให้เข้มข้นขึ้น ปรับปรุงระบบการเล่น ปรับเปลี่ยนวิธีให้เหมาะกับผู้เล่นที่มีอยู่ไปก่อน ไม่น่าจะใช่ใช้ปากจิกกัดประธานพลางตำหนิลูกกลุ่มออกสื่อ ซึ่งก็ถือว่าสอบตกในวิชา “จิตวิทยาสำหรับในการคุมทีม”

ทำเช่นนี้แล้วนักเตะตรงไหนจะถวายหัวให้มึง เอ๊ย! ให้คุณล่ะครับผม

บทสรุปของฤดูกาล 2021-22 เพื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด

1. ล้มเหลวสำหรับเพื่อการซื้อตัวผู้เล่น

2. นักบริหารทีมมือไม่ถึง (ทั้ง 2 คน)

3. ผู้เล่นประสิทธิภาพบัดซบ

4. ประธานทีมเฮงซวย

5. ทัศนคติห่วยแตกแตก ปราศจากความเป็นกูรู ปราศจากความกระตือรือร้น ไม่มีความกระเหี้ยนกระหือรือ รับค่าเหนื่อยมีคุณค่าและราคาที่สูงๆ แล้วเล่นไปวันๆ ให้มันจบฤชมกาล โดยไม่เห็นได้ชัดหัวแฟนบอล ไม่มีความสนใจว่าแฟนบอลจะถูกเหยียดหยาม และโดนหัวเราะเยาะจากคู่ต่อสู้แค่ไหน

ขอพูดว่าช้ำใจมาก ช้ำใจ…ช้ำใจจริงๆ

eyeofthepacific